หากพูดถึงบ้านที่อาศัยอยู่แล้วมีความสุข คงปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจัยสำคัญอันดับแรกๆ ก็คือเรื่องของความเย็นสบายนั่นเอง การสร้างบ้านให้มีความเย็นสบาย นอกจากจะเกี่ยวข้องกับการวางผังของบ้าน การจัดวางตำแหน่งบ้านให้สอดคล้องกับทิศทางลม และหลีกเลี่ยงแสงแดดแล้ว การมีตัวช่วยที่ดีอย่างการติดฉนวนกันความร้อน ก็เป็นสิ่งที่จะละเลยไม่ได้ในการสร้างบ้าน
ฉนวนกันความร้อน เป็นผู้ช่วยป้องกันความร้อนได้อย่างดี ยิ่งสภาพอากาศอย่างบ้านเราที่ร้อนระอุขึ้นทุกวันแบบนี้ หากไม่มีฉนวนกันความร้อน คงไม่สามารถอาศัยอยู่ได้
ฉนวนกันความร้อนมีหลายชนิด ดังนี้
– ชนิดอยู่ใต้กระเบื้อง เป็นลักษณะแผ่นบางๆ มีตะกั่ว เรียกว่าแผ่นกันความร้อน หรือฉนวนกันความร้อน
– ชนิดที่วางอยู่เหนือฝ้าเพดาน ฉนวนกันความร้อนชนิดนี้มักจะใช้วางบนฝ้าแขวน ที-บาร์ มีความหนา 2 นิ้ว, 3 นิ้ว หรือ 4 นิ้ว โดยมีไมโครไฟเบอร์สีเหลืองๆ อยู่ตรงกลาง หุ้มด้วยอะลูมิเนียม ฟอยล์ทั้ง 4 ด้าน
– ชนิดที่เป็นฝ้าเพดาน เช่น ยิปซัม ชนิดที่มีฟอยล์อยู่ติดกับแผ่นด้านหนึ่งทำหน้าที่เป็นฝ้าเพดาน อีกด้านหนึ่งทำหน้าที่เป็นแผ่นสะท้อนความร้อน
– ชนิดที่พ่นใต้หลังคา ลักษณะเป็นโฟมเหลวๆ เรียกว่า โพลียูริเทนโฟมทำหน้าที่เป็นฉนวนป้องกันความร้อนลงมาในอาคารได้ส่วนหนึ่ง
– ชนิดพ่นบนหลังคา เป็นประเภทเซรามิค มักจะเป็นของเหลวคล้ายๆ สี นิยมพ่นบนหลังคากระเบื้อง ดาดฟ้าคอนกรีต หรือ บนหลังคาเหล็ก
– ฉนวนยาง เป็นยางสีดำๆ ปะติดกับอะลูมิเนียมฟอยล์ นิยมติดตั้งใต้กระเบื้องมุงหลังคา
– ชนิดเป็นเส้นใย เรียกว่าเป็นผงฉนวนชนิดนี้จะพ่นบนฝ้าเพดานต้องมีกรรมวิธีโดยเฉพาะในการทำงาน
ฉนวนกันความร้อนแต่ละชนิด มีคุณสมบัติและความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งล้วนมีประโยชน์ต่อตัวบ้าน และตัวอาคารทั้งสิ้น ดังนั้น หากอยากให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อบ้าน ก็ควรเลือกให้มีความเหมาะสมกับบ้านของคุณด้วย โดยพิจารณาจากคุณสมบัติและ ราคาของวัสดุฉนวนกันความร้อนชนิดนั้นๆ เป็นหลักก็จะช่วยให้บ้านเย็นสบายได้