ปัญหาใหญ่ของบ้าน ที่สร้างความอันตราย และน่าสะพรึงกลัวมากที่สุด คือปัญหาไฟรั่ว เพราะอาจเกิดอันตรายถึงขั้นไฟไหม้ และเสียทรัพย์สิน รวมถึงอาจเสียชีวิตได้ ยิ่งบ้านที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่มาก หรือใช้ไฟมากในเวลาพร้อมๆ กัน อาจเกิดปัญหาเครื่องใช้ไฟฟ้าชำรุด ปลั๊กชำรุด และเกิดไฟรั่วขึ้นได้เสมอ
การปฏิบัติตน หรือการป้องกันไฟรั่ว
การปฏิบัติตน หรือการป้องกันไม่ให้เกิดไฟรั่วขึ้น สามารถทำได้ดังนี้
– หมั่นตรวจเช็คอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ หากเก่าก็ควรเปลี่ยนใหม่ หรือติดตั้งให้ถูกต้อง
– อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้อยู่ในบ้านต้องมีการตรวจสอบดูแลอยู่เสมอ บำรุงรักษาด้วยตัวเอง
– เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องมีการสัมผัสอยู่ตลอดเวลา เช่นตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องซักผ้า จำเป็นต้องต่อสายดิน และมีระบบสายดินที่สมบูรณ์
– วงจรสายดินต้องเป็นวงจรหลักในการป้องกันไฟรั่ว ส่วนเบรกเกอร์กันดูดนั้นให้เป็นระบบรองลงไป หากมีสายดินไม่มีเบรกเกอร์กันดูดก็ได้ แต่ถ้ามีเบรกเกอร์กันดูดต้องมีสายดินด้วยเสมอ แต่ถ้ามีทั้งสองอย่างถือว่าสมบูรณ์
– ไม่ควรใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากพร้อมๆ กัน เพราะอาจเกิดไฟลัดวงจรได้
หากถูกไฟดูด หรือมีคนในบ้านถูกไฟดูด ควรปฏิบัติดังนี้
– ตัดทางเดินกระแสไฟฟ้าภายในบ้านก่อน โดยการยกคัทเอาท์ หรือดึงปลั๊กออก การปิดสวิตซ์ในตัวเครื่องไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวจะไม่ได้ผล เพราะยังไม่ใช่การตัดกระแสไฟที่เข้าสู่ตัวเครื่อง
– หากยังไม่สามารถตัดทางเดินกระแสไฟได้ทันทีให้หาวัตถุที่ไม่เป็นสื่อไฟฟ้า เช่น ไม้แห้งๆ เชือก สายยางแผ่นยาง เก้าอี้ไม้ หรือ ผ้าห่มคล้อง-ดึง หรือผลักผู้ที่โดนไฟดูด ให้หลุดพ้นจากจุดที่โดนดูด และเพื่อความปลอดภัย ผู้ที่ช่วยเหลือควรยืนอยู่บนพื้นที่แห้ง
– หลังจากที่ช่วยผู้เคราะห์ร้ายออกมาจากไฟดูดได้แล้ว ถ้าพบว่าเขาไม่หายใจ หรือหัวใจไม่เต้น ก็ต้องกระตุ้น โดยการเป่าปาก และกดทรวงอก
อย่างไรเสีย การป้องกันไว้ก่อน ก็ย่อมดีกว่าการตามแก้ไขอย่างแน่นอน ดังนั้น อย่าใช้ชีวิตด้วยความประมาท และเอาใจใส่เรื่องของระบบไฟด้วยนะคะ