ถ้าจะพูดถึงปัญหาใหญ่ที่สุด ร้ายแรงที่สุด ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับบ้านของตนเอง คงหนีไม่พ้นเรื่องของ “ไฟไหม้” ไฟไหม้ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุที่ยากต่อการระมัดระวัง ก็คือปัญหาไฟรั่ว เพราะเราอาจสังเกตได้ยาก หรือไม่ใส่ใจว่าอาจเกิดไฟรั่วได้ตลอดเวลา
เรื่องของไฟรั่วนั้น ทุกคนในครอบครัวควรให้ความสนใจ และระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะอาจเกิดอันตรายถึงขั้นไฟไหม้ หรือเสียชีวิตได้ แต่เราจะทราบได้อย่างไรว่าในบ้านของเรานั้น มีกระแสไฟฟ้ารั่วอยู่หรือไม่ เพราะไม่สิ่งที่สังเกตได้ง่ายด้วยตาเปล่า แต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ เพราะคุณสามารถตรวจสอบว่าไฟรั่วหรือไม่ได้
ก่อนจะตรวจสอบนั้น ควรตั้งสติ และทำทุกอย่างด้วยความรอบคอบนะคะ และที่สำคัญ ระวังอย่าให้เด็กเข้ามาเกี่ยวข้องในขณะทำการตรวจด้วยค่ะ
การตรวจสอบ และการสังเกตกระแสไฟฟ้าว่ารั่วหรือไม่ สามารถทำได้ดังนี้
1. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดในบ้าน โดยไม่ต้องดึงคัทเอาท์หรือเบรกเกอร์ลง จากนั้นให้ลองสังเกตที่มิเตอร์ของที่บ้านว่าแผ่นจานภายในมิเตอร์นั้นหมุนหรือไม่ ถ้าแผ่นจานภายในมิเตอร์ยังหมุนอยู่ ให้ลองเช็คอีกรอบว่าปิดไฟทุกดวงภายในบ้านแล้วหรือยัง แต่ถ้าตรวจสอบแล้วปรากฏว่าคุณปิดไฟทุกดวงแล้ว แสดงว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วเกิดขึ้น
2. อย่าวางใจแม้มิเตอร์จะหยุดหมุน คุณอาจลองจดหมายเลขมิเตอร์และจดจำตำแหน่งแผ่นหมุนว่าหยุดอยู่ในตำแหน่งใด จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วกลับมาเช็คอีกรอบ ถ้าทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมแสดงว่าไม่มีกระแสไฟฟ้ารั่วเกิดขึ้น
3. หากคุณไม่มั่นใจว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วที่เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดใดในบ้านหรือเปล่า จะลองใช้ไขควงวัดไฟแตะไปที่เฟอร์นิเจอร์เหล่านั้น หากมีแสงสีแดงปรากฏขึ้นที่ไขควง แสดงว่าเกิดไฟฟ้ารั่วจากเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนั้น
หากพบว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่ว มีปัญหาไฟฟ้าขัดข้อง ไฟฟ้าดับ ก็สามารถแจ้งสายด่วน 1129 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ตลอด 24 ชั่วโมงและที่สำคัญ ระหว่างที่รอช่างมาซ่อมแซมแก้ไข ก็ควรใช้ไฟอย่างระมัดระวัง หรือหยุดใช้หากไม่จำเป็น และควรแจ้งให้ช่างมาซ่อมในทันทีที่พบว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่ว หรือสงสัยว่ามีความขัดข้องเกิดขึ้นนะคะ