หลังคา เป็นส่วนที่ต้องพบเจอกับสภาพแวดล้อมต่างๆ ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะแสงแดดที่ร้อนแรง ดังนั้น ย่อมมีวันเสื่อมโทรมไปตามสภาพ และตามระยะเวลา
หากมีการชำรุดเพียงเล็กน้อย ก็อาจซ่อมแซมแก้ไขให้ใช้งานได้ดีอีกครั้งได้ แต่หากใช้งานมานานมาก และมีความเสื่อมโทรม หรือจุดที่ต้องแก้ไขมากพอสมควร ก็ได้เวลาที่ควรเปลี่ยนหลังคาใหม่
วัสดุที่ใช้ทำหลังคา มีความแตกต่างกันออกไป เช่น
– หลังคาประเภทไม้ทุกชนิดจะมีระยะเวลาการใช้งานเฉลี่ยสูงสุด 20 ปี ซึ่งจะต้องดูแลเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนหรือซ่อมแซม
– หลังคากระเบื้องจะใช้งานได้ยาวนานกว่า แต่ก็ต้องหมั่นตรวจสอบจุดรั่ว รอยร้าวเสมอๆ
– หลังคาแบบเมทัลชีทหรือหลังคาคอนกรีต เหมาะกับเจ้าของบ้านที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลบ้าน เพราะไม่ต้องดูแลรักษามาก และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
เมื่อใดควรเปลี่ยนหลังคาใหม่
1. เมื่อพบว่าหลังคามีรอยน้ำรั่ว หรือมีรูเล็กๆ ที่แสงสว่างสามารถส่องลอดผ่านเข้ามาได้
ปกติ ท้องหลังคาควรเรียบเสมอกันทั้งหมด หากหลังคามีรอยจุดด่างดำ มีรอยเปื้อน เศษซากสกปรก หรือมีสีที่ผิดปกติไปจากสีเดิมของวัสดุ แสดงว่าหลังคาอาจมีรอยรั่วที่ทำให้น้ำแทรกซึมเข้าไปได้ ซึ่งนอกจากน้ำแล้ว ยังมีความชื้นที่นำไปสู่การเกิดเชื้อรา แบคทีเรีย รวมไปถึงเมื่อเห็นรอยแตกร้าวหรือมีรอยเลื่อนบนหลังคา หรือมีเศษซากของหลังคาตกหล่น หลุดลอกออกมาก็ได้เวลาเปลี่ยนหลังคาใหม่แล้ว
2. ใช้งานมานานกว่า 15 – 20 ปี
หากคุณใช้งานมาอย่างยาวนานกว่า 15-20 ปีแล้ว ก็ควรเปลี่ยนหลังคาใหม่ เพราะหลังคาอาจเก่าเกินกำลังที่จะซ่อมแซมการเปลี่ยนหลังคาใหม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องบ้านจากสภาพอากาศต่างๆ ได้ดีและยังทำให้บ้านดูสวยงามมากขึ้นด้วย
ลองสำรวจหลังคาของคุณดูนะคะ ว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนใหม่หรือยัง ถ้าถึงเวลาแล้ว การเปลี่ยนหลังคาใหม่ก็เหมาะสม และคุ้มค่ากว่าการซ่อมแซมที่ไม่จบสิ้นอย่างแน่นอนค่ะ