ปัญหาของบ้านบางอย่างนั้น เกิดขึ้นมาจากการที่เราไม่ทันระมัดระวัง และไม่ทราบถึงสัญญาณเตือน ซึ่งอาจเป็นจุดเล็กๆ น้อยๆ แต่หากทิ้งไว้ ย่อมสร้างความเสียหายให้บ้านได้หากบ้านของคุณ พบความเสียหายเหล่านี้ หรือยังไม่เกิดขึ้น ก็ควรที่จะหมั่นตรวจสอบ และแก้ไขให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ
ส่วนที่เป็นไม้
หากบ้านคุณมีเฟอร์นิเจอร์ไม้ หน้าต่างไม้ ประตูไม้ หรือมีส่วนอื่นๆ ที่ทำจากวัสดุไม้ คุณควรป้องกันด้วยการทาสีย้อมไม้ หรือลงน้ำมันรักษาเนื้อไม้ โดยการทาสีย้อมไม้จะต้องทา 2-3 ชั้น โดยแต่ละชั้นควรทิ้งให้แห้งอย่างน้อย 6 ชั่วโมง สีที่ใช้ควรเป็นสีน้ำมัน สีน้ำพลาสติกสำหรับงานไม้โดยเฉพาะ หรือสีย้อมไม้เพราะจะทนทานต่อน้ำและแสงแดด รวมถึงควรทาน้ำยากันปลวก มด แมลงด้วยด้วย
ในบ้านบริเวณที่ถูกแดด ฝน
สำรวจให้รอบๆ บ้านว่ามีพื้นที่ตรงส่วนไหนที่แสงแดดส่องถึงเข้าไปในตัวบ้านได้ โดยดูจากทิศที่แดดส่องถึง ซึ่งจะเป็นทิศใต้กับทิศตะวันตก ทิศตะวันตกเฉียงใต้ และควรติดกันสาด เพื่อช่วยกันแดด กันฝน รวมถึงป้องกันการรั่วซึมของน้ำที่จะเข้ามาภายในตัวบ้านได้มาก
รางน้ำฝน
หากรางน้ำฝนมีกิ่งไม้ ใบไม้อุดตันและไม่ได้กำจัดออก น้ำจะไม่ระบาย และอาจรั่วซึมเข้าตัวบ้าน จึงควรหมั่นกำจัดออกและหาตะแกรงมาปิดรางน้ำฝนเพื่อป้องกันการสะสมของเศษใบไม้
รอยรั่ว รอยร้าว
รอยรั่วต่างๆ หากไม่ใหญ่มาก ให้ทาซิลิโคนแบบที่ใช้กับไม้ ชนิดใช้ภายนอกมาอุดรอยเหล่านั้นให้เรียบร้อย ส่วนรอยผนังที่มีรอยร้าวจากปูนฉาบแตกร่อน ก็ควรซ่อมแซมเช่นใช้วัสดุยาแนว หรือขูดสีออก และทาสีใหม่ เพื่อป้องกันน้ำซึมเข้ามาจนเกิดเชื้อรา
บ่อน้ำทิ้ง
ควรตรวจสอบว่ามีสิ่งอุดตันบ่อน้ำทิ้งหรือไม่ เพราะหากมีอาจทำให้น้ำท่วมขังในบริเวณบ้าน หรือเน่าเหม็น เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้
นอกจากนี้ ตามจุดต่างๆ ของบ้าน ก็ควรหมั่นตรวจสอบความผิดปกติ เพื่อให้แก้ไขได้ทันท่วงที และไม่ต้องใช้งบประมาณสิ้นเปลืองในการแก้ไขมากจนเกินไป